แมนฯ ยูฯจ้องมองคุณอยู่! แอนโทนีไม่รับปากอยู่อาแย็กซ์ต่อฤดูกาลน้ี

แย่งกันเอาเอง…!!!

ราษฎรโนนแดง ร้องกรมทางหลวงขอไฟส่องสว่างถนนหนทางทางเข้าออกหมู่บ้าน ข้างหลังขยายถนนหนทาง 4 เลน รถยนต์วิ่งเร็วไม่เห็นคน เกิดอุบัติเหตุเจ็บตายหลายครั้ง วันที่ 9 เดือนมีนาคม 2564 นักข่าวกล่าวว่า จากกรณีช่วงวันที่ 3 เดือนมีนาคม 2564 ก่อนหน้าที่ผ่านมาได้เกิดอุบัติเหตุรถตู้ชนกับรถปิคอัพ จนกระทั่งทำให้มีคนบาดเจ็บ 9 ราย แล้วก็เสียชีวิต 1 ราย รอบๆใกล้ปากทางเข้าหมู่บ้านหนองตาโล ตำบลโนนแดง อำเภอโนนแดง จังหวัดนครราชสีมา มูลเหตุส่วนหนึ่งส่วนใดเนื่องจากภาวะถนนหนทางที่มืดไม่มีไฟส่องสว่างพอเพียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางเข้าออกหมู่บ้านที่ไม่มีไฟสัญญาณแจ้งเตือน นักข่าวก็เลยได้ลงพื้นที่ไปพบราษฎรกว่า 30 คนจากบ้านหนองตาโล บ้านนา รวมทั้งบ้านป่าตะแบง ที่จำต้องใช้ทางดังที่ได้กล่าวมาแล้วเป็นทางเข้าออกหมู่บ้าน ซึ่งพบว่ารอบๆดังที่ได้กล่าวมาแล้วไม่มีไฟส่องสว่างตามถนนหนทาง จากการซักถามราษฎรทราบดีว่า กรมทางหลวงได้ทำขยายถนนหนทางเป็นแบบ 4 ช่องการจราจร แล้วทำติดไฟส่องสว่างแค่เพียงรอบๆทางเบี่ยง รวมทั้งเนินสูงที่อยู่เลยหมู่บ้านไป เหลือแค่รอบๆทางเข้าออกหมู่บ้านของพวกตนเพียงแค่นั้นที่ยังไม่มีการตำหนิดตั้งไฟส่องสว่าง ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาเคยมีอุบัติเหตุหลายครั้งเนื่องด้วยเมื่อมีการขยายถนนหนทางทำให้รถยนต์ใช้ความเร็วสูง แม้กระนั้นประชาชนก็จำเป็นต้องไปรอคอยเลี้ยวรถยนต์เข้าหมู่บ้านรอบๆกึ่งกลางถนนหนทาง ในภาวะถนนหนทางที่มืดตึดตื๋อ ทำให้รถยนต์ที่สวนมาไม่เห็น และก็มีการเฉี่ยวชน จนได้รับเจ็บตายไปแล้วหลายราย ซึ่งทางเข้าออกหมู่บ้านของพวกตนนอกเหนือจากราษฎร 3 หมู่บ้านที่ใช้เดินทางเข้าออกแล้ว ถนนหนทางทางดังกล่าวข้างต้นยังเชื่อมไปออกถนนหนทางมิตรภาพได้ ทำให้ในทุกวันจะมีรถยนต์เดินทางเข้าออกจำนวนมาก ก็เลยไม่รู้เรื่องเหตุไรกรมทางหลวงก็เลยเว้นระยะและไม่จัดตั้งไฟส่องสว่างในตอนหมู่บ้านของพวกตน…

อย่างนี้ก็มี หยุดรถยนต์ฉี่ข้างถนน ลืมภรรยาไว้ริมถนนสาย 304 เมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 25 เดือนธันวาคม 2565 ตำรวจ สภ.กบินทร์บุรี รับแจ้งว่ามีหญิงสาวตกรถวิงวอนว่าถูกผัวลืมทิ้งเอาไว้ริมถนน ขณะหยุดรถยนต์ลงมาฉี่ ถนนหนทางสาย 304 ขาเข้าอำเภอกบินทร์บุรี สำรวจเจอหญิงสาวเป็นชาวจังหวัดมหาสารคาม นั่งใจลอยรอคอยผัวกลับมารับกลับไปอยู่บ้านที่จังหวัดมหาสารคาม ถามข้างหญิงรู้เรื่องว่า ตนพร้อมทั้งผัวเดินทางกลับไปอยู่ที่บ้านที่จังหวัดมหาสารคาม ภายหลังจากหยุดยาวต่อเนื่องกันนับเป็นเวลาหลายวัน ตอนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ภายหลังเลิกงานที่จังหวัดระยองได้เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวแบรนด์อีซูซุ สีขาว เพื่อกลับไปอยู่บ้านที่จังหวัดมหาสารคาม เริ่มเดินทางมาตั้งแต่ตี 3 ช่วงเวลาที่เดินทางมาถึงถนนหนทางสาย 304 ก่อนถึง สภ.กบินทร์บุรี ผัวกำเนิดปวดเยี่ยวและก็หยุดรถยนต์ฉี่ข้างถนน ส่วนตนก็ลงจากรถยนต์หาที่เยี่ยวเหมือนกัน เมื่อผัวฉี่เสร็จก็ขึ้นรถขับออกไปเลย โดยทิ้งตนเอาไว้ผู้เดียว โทรศัพท์ของตนเองก็อยู่ในรถยนต์ เงินก็ไม่มีประจำตัวสักบาท   แล้วหลังจากนั้นตรงเวลามืดยังไม่สว่างตนก็ยำเกรงจะไม่ปลอดภัย ก็เลยเดินตามถนนหนทางไปเรื่อยก็ซักถามผู้ที่ผ่านไปมาว่าโรงพักอยู่ที่ไหนเพื่อขอความช่วย รวมทั้งได้ยืมโทรศัพท์ของนักข่าวโทรศัพท์เข้าเครื่องตนผัวก็รับบ้างไม่รับบ้าง รอนานกว่า 3 ชั่วโมงก็ยังไม่มีวี่แววที่จะมารับ ตนรู้สึกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ รวมทั้งว่า “ถ้าเกิดมารับหนูๆก็จะไม่บอกอะไรรวมทั้งจะไม่บอกด้วย” ด้วยความโมโหว่าทำแบบงี้ได้ยังไง ถัดมาไม่นาน ข้างผัวก็เลยได้รับโทรศัพท์ รวมทั้งแจ้งว่ากำลังมารับ แต่ว่าได้มีผู้ปรารถนาดีขอสมัครใจไปส่งข้างหญิงแล้ว ไม่เคยรู้ว่าจุดใด

ด่วน!! ไทยติดวัววิดวันนี้ 157 ราย ยอดสุทธิเฉียดฉิว 1.1 หมื่นราย วัววิด-19 – ตอนวันที่ 13 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป วิษณุโยธิน ผู้ประกาศศูนย์บริหารเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อเชื้อไวรัสวัวโรที่นา 2019 (วัววิด-19) หรือ ศบค. รายงานเหตุการณ์การแพร่ระบาดของวัววิด-19 ในประเทศไทย ว่า ในวันนี้เจอผู้ติดโรครายใหม่ 157 ราย เป็นการติดโรคในประเทศ 90 ราย ติดเชื้อโรคในกรุ๊ปแรงงานต่างประเทศจากการคัดเลือกกรองเชิงรุก 42 ราย และก็ผู้เดินทางมาจากต่างแดน ไม่เข้าสถานที่กักกัน (Quarantine) 21 ราย และก็ผู้เดินทางจากต่างแดน เข้าสถานที่กักกันโรค 4 ราย รวมคนเจ็บการันตีสะสม 10,991 ราย หายแล้ว 6,943 ราย รักษาอยู่ 3,981 ราย เสียชีวิตสะสม 67 ราย

แม่นักเรียนชายชั้น มัธยม1 อำเภอคู จังหวัดจังหวัดบุรีรัมย์ ไม่ยินยอมและก็รับมิได้ ข้างหลังถูกคุณครูชายสอนวิชาหน้าที่พลเมือง ต่อยหน้ากระทั่งบอบช้ำ ฐานเผลอไปเหยียบเท้าอาจารย์ เด็กเปิดเผยขออภัยสุดแท้แต่อาจารย์ไม่ยินยอม ท้าทายต่อย ไม่สู้แม้กระนั้นโดนคล่อมร่างต่อยจนถึงบอบช้ำหมดทั้งตัว วันที่ 22 มกราคม64 นางสาวรักษิณา หมู่ไธสง อายุ 42 ปี ตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอคูน้ำ จังหวัดจังหวัดบุรีรัมย์ ร้องผ่านสื่อว่า ลูกชายวัย 13 ปี ผู้เรียนชั้น มัธยม1 สถานที่เรียนบ้านสาวเอ้ ถูกคุณครูชายในสถานที่เรียน รังควานด้วยการต่อยกระทั่งบริเวณใบหน้าปูดบวม และก็ต้องการวิงวอนความเที่ยงธรรม จากการตรวจทาน เจอ เด็กชายนิก (สมญานาม) อายุ 13 ปี ผู้เรียนชั้น มัธยม1 ของสถานศึกษาดังที่กล่าวถึงมาแล้ว ยังมีร่องรอยการเช็ดกรังแกระบมตามบริเวณใบหน้า แล้วก็ตามร่างกายหลายที่ ซึ่งจากการไต่ถาม เด็กชายนิก รู้ว่า แผลทั้งปวงที่เกิดขึ้น มาจากคุณครูโจ๊ก เป็นคุณครูสอนวิชาหน้าที่พลเมือง รังแกด้วยการคร่อมร่างแล้วต่อยตามบริเวณใบหน้าหลายที โดยตนเองไม่มีช่องทางแจกแจง โดย เด็กชายนิด เล่าว่า…