เปิดเผยไฟเผาเรือกลางสมุทรสุราษฎร์ เจอเป็นของประธานห้างดัง คาดเสียหาย 30 ล้าน
เปิดเผยไฟลุกเรือกลางสมุทรสุราษฎร์ เจอเป็นของประธานห้างดัง คาดเสียหาย 30 ล้าน
จากกรณีไฟลุกเรือสปีดโบ๊ต ชื่อเรือ “แอ๊ว” รอบๆกึ่งกลางสมุทร จุดเกิดเหตุห่างจากฝั่งชายหาดริ้นนอก ราวๆ 1 ไมล์ทะเล ท้องที่กลุ่ม 6 ตำบลบ้านใต้ อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ เมื่อตอนเวลาเย็นก่อนหน้าที่ผ่านมานั้น (24 เดือนมกราคม) นักข่าวแถลงการณ์ว่า เหตุนี้ ศูนย์วิทยุสำหรับติดต่อสื่อสาร สภ.เกาะพะงัน อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งเกิดเหตุไฟลุกเรือยอร์ต่อยลางสมุทร ห่างจากฝั่งริมหาดริ้น กลุ่ม 6 ตำบลบ้านใต้ ก็เลยได้รายงานให้ พันตำรวจเอกสติปัญญา นิรัตน์ติเตียนมานนท์ ผู้กำกับการ สภ.เกาะพะงัน และก็เดินทางไปวิเคราะห์ร่วมกับนายพูลอำนาจ งามบัวก้านรัตน์ นายอำเภอเกาะพะงัน ข้าราชการที่ทำการเจ้าท่าภูมิภาคสาขาเกาะพะงัน เทศบาลตำบลบ้านใต้ และก็ข้าราชการมูลนิธิบุญกุศลเลื่อมใสเกาะเกาะพะงัน
ดังนี้ รอบๆริมหาดริ้นสามารถมองเห็นเรือที่ไฟเผาได้จากชายทะเล พบว่า มีกรุ๊ปควันสีดำมากไม่น้อยเลยทีเดียวพวยพุ่งขึ้นฟ้า ประชาชน แล้วก็นักเดินทางต่างยืนมอง พร้อมบันทึกภาพเรื่องราวดังกล่าวข้างต้น
หลังจากนั้นข้าราชการได้นำเรือสปีดโบ๊ต พร้อมเครื่องปั๊มน้ำออกเข้าช่วยเหลือ รวมทั้งรีบปิดไฟที่กำลังลุกโชน ซึ่งใช้เวลาโดยประมาณ 20 นาที ก็เลยสามารถปิดไฟที่กำลังลุกโหมได้ แล้วก็สามารถช่วยนายสั่งการ รัตนมณี กัปตันเรือ แล้วก็นายสานนท์ ปานจนะ ช่างกล ขณะลอยคออยู่ในสมุทรได้โดยสวัสดิภาพ
ถัดมา ข้าราชการที่ทำการเจ้าท่าภูมิภาคสาขาเกาะพะงัน ได้วิเคราะห์ทะเบียนเรือรู้ดีว่าเรือยอร์ชลำดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นมีชื่อว่า แอ๊ว เลขทะเบียน 595103555 ผู้ครอบครองเรือชื่อ นางสาวศุภลักษณ์ บัว ใบอนุมัติใช้เรือยังไม่หมดอายุ
ข้าราชการเผยออกมาว่า จากการซักถามกัปตันเรือให้การว่า ได้นำเรือออกมาจากท่าเรือหัวเทียนเกาะพะงัน โดยมุ่งหน้าไปเกาะสมุย ในเวลาที่เรือกำลังแล่นได้กำเนิดไฟลุกไหม้รอบๆเครื่องจักรกลของเรือ ซึ่งกัปตันเรือพร้อมทั้งช่างกลได้ใช้ความมานะบากบั่นดับ แม้กระนั้นไม่อาจควบคุมไฟได้ เพราะว่าเชื้อเพลิงเป็นน้ำมันเบนซิน ทำให้ไฟลุกไหม้ตัวเรืออย่างเร็ว ส่งผลให้่เรือได้รับความเสื่อมโทรมทั้งยังลำก่อนที่จะเรือจะจมลงสู่ใต้สมุทร
สำหรับเรือลำดังที่กล่าวถึงมาแล้วนางสาวศุภลักษณ์ บัว ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กลุ่ม จำกัด เป็นเจ้าของ คาดว่าความเสียหายคราวนี้มีมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท ส่วนปัจจัยพนักงานที่มีหน้าที่สอบสวน สภ.เกาะพะงัน ร่วมกับที่ทำการเจ้าท่าภูมิภาค สาขาเกาะพะงัน จะกระทำการซักถามเพื่อหาปัจจัยไฟลุกเรือในคราวนี้ถัดไป