หัวเว่ย เมืองไทย ครอบครองรางวัล “หลังเที่ยงวัน ดิจิทัล อวอร์ด” (PM Digital Awards)


ชนิด Digital International Corporation of the Year สำหรับหน่วยงานระหว่างชาติ
         ประกาศเดินหน้าดำเนินงานภายใต้หน้าที่ “Grow in Thailand, Contribute to Thailand”
มุ่งส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านด้านดิจิทัลแล้วก็ทดแทนคืนสู่สังคม
จังหวัดกรุงเทพมหานคร/ 9 เดือนมีนาคม 2564 – บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (เมืองไทย) จำกัด เอารางวัลพิเศษ “หลังเที่ยงวัน ดิจิทัล อวอร์ด” ชนิด “Digital International Corporation of the Year” นับเป็นเครื่องรับรองการช่วยส่งเสริมอันมีคุณค่าแล้วก็การมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมไทยโดยตลอดของหัวเว่ย ตั้งแต่แมื่อเริ่มริเริ่มตั้งขึ้นบริษัทในประเทศไทยเมื่อ 21 ปีกลาย รวมทั้งความทุ่มเทดำเนินงานเพื่อร่วมเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในประเทศไทย โดยหัวเว่ย เป็นบริษัทต่างประเทศเพียงแค่รายเดียวที่ได้รับรางวัลนี้
นายอาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (เมืองไทย) จำกัด รับมอบรางวัลจาก
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชะ นายกฯ โดยมีนายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการที่ทำการผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) ร่วมในพิธีการที่จัดขึ้นในทำเนียบรัฐบาล
ดังนี้ นายกฯได้กล่าวยินดีแก่คนที่ได้รับรางวัล พร้อมชื่นชอบคนสมัยใหม่ที่นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาดัดแปลงในเชิงประดิษฐ์ ต่อยอด รวมทั้งสร้างธุรกิจใหม่ๆซึ่งถือว่าเป็นการศึกษา เพื่อล้ำหน้าไปพร้อม ก่อนเสริมว่า รัฐบาลให้ความเอาใจใส่ในการพัฒนาระบบ 5G แล้วก็ AI เพื่อนำมาขับเมืองไทยสู่อนาคต และก็หวังให้การบรรลุเป้าหมายในวันนี้เป็นแรงจูงใจส่งต่อไปยังนิสิต นิสิตระดับมหาวิทยาลัยสำหรับเพื่อการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลให้มีคุณประโยชน์ และก็กำเนิดราคาด้านเศรษฐกิจ เพื่อสร้างอนาคตใหม่ให้กับประเทศ  นอกเหนือจากนั้น นายกฯยังได้กล่าวกับประธานของหัวเว่ยว่า ”ขอให้ช่วยเหลือกันเคลื่อนเมืองไทยถัดไป แล้วก็ขอแสดงความยินดีด้วย”
“รางวัล PM’s Digital Awards เป็นรางวัลที่มอบให้สำหรับคนที่ส่งผลงานเด่นทางด้านเทคโนโลยีและก็สิ่งใหม่ดิจิทัล  สำหรับชนิดรางวัล PM’s Special Award: Digital International Corporation of the Year นั้นมีการกำหนดเกณฑ์การเลือกเฟ้นหน่วยงานที่กำลังจะได้รับรางวัลอันมีเกียรตินี้ไว้ภายในหลายด้าน ดังเช่นว่า มีการศึกษาค้นคว้าปรับปรุงดิจิทัลเทคโนโลยีเพื่อนำมาซึ่งการก่อให้เกิดสิ่งใหม่อีกทั้งภาคธุรกิจหรือบริการและก็สังคม มีการปรับใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่นำมาซึ่งการพัฒนาทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม รวมทั้งความยั่งยืนและมั่นคงไม่เป็นอันตรายสำหรับพสกนิกร มีการลงทุนในประเทศไทยจนถึงก่อกำเนิดการผลิตงาน การพัฒนาด้านสังคมรวมทั้งสภาพแวดล้อม ที่ช่วยต่อยอดสู่การพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจของเมืองไทย แล้วก็ส่งผลงานเป็นที่แจ่มแจ้งในระดับประเทศ โดยหัวเว่ยมีคุณลักษณะตรงตามเกณฑ์การเลือกเฟ้นแล้วก็ได้รับคะแนนสูงสุดจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่มาร่วมตรึกตรองผลงานของผู้เข้าร่วมการประกวดในคราวนี้” นายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการที่ทำการช่วยเหลือเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) กล่าว พร้อมเสริมว่า “นานาประการเทคโนโลยีดิจิทัลของหัวเว่ยมีส่วนช่วยทำให้มีการปรับปรุงของใหม่ที่นำมาซึ่งการก่อให้เกิดผลดีในรูปภาพสังคม อาทิเช่น ภัยทางธรรมชาติ การดูแลความปลอดภัยของระบบ วิกฤตด้านสาธารณสุข และก็อื่นๆ  รวมทั้ง โซลูชัน AI แล้วก็เทคโนโลยี 5G มาใช้ในโรงหมอเพื่อช่วยเหลือกลุ่มหมอได้อย่างทันทีทันควันเพื่อจัดการกับเหตุการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ยิ่งไปกว่านี้ หัวเว่ยยังได้ร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและก็สังคม แล้วก็ดีป้า เพื่อเปิดศูนย์ “Thailand 5G Ecosystem Innovation Center (5G EIC)” รีบส่งเสริมการพัฒนาสิ่งใหม่เทคโนโลยี 5G และก็ประสานความร่วมแรงร่วมใจของอีกทั้งระบบนิเวศ อันจะช่วยยกฐานะความรู้ความเข้าใจสำหรับเพื่อการชิงชัยด้านธุรกิจของประเทศถัดไป ดังนี้ขอแสดงความยินดีกับหัวเว่ยกับรางวัลที่ได้รับในคราวนี้ และก็ขอบคุณมากสำหรับความมุ่งมั่นสำหรับในการร่วมเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยอย่างยอดเยี่ยมโดยตลอด”
“ในฐานะผู้แทนของหัวเว่ย ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่พวกเรารับรางวัลหลังเที่ยงวันอวอร์ด ในวันนี้” นายอาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (เมืองไทย) รายงานในระหว่างพิธีการฯ “หัวเว่ยให้ความใส่ใจกับการผลิตผู้ช่วยเหลือในระยะยาวและก็พร้อมดำเนินการร่วมกับลูกค้า ตลอดจนพาร์ทเนอร์จากทุกภาคส่วนเพื่อเป็นกลไกสำหรับการช่วยประเทศทรานสฟอร์มสู่สมัยดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ภายใต้หน้าที่ “Grow in Thailand, Contribute to Thailand” บริษัทขมักเขม้นเคลื่อนเมืองไทย 4.0 รวมทั้งก้าวสู่การเป็น “ดิจิทัลฮับ” ของภูมิภาคทวีปเอเชียแปซิฟิค รวมทั้งช่วยทำให้ทุกคนเข้าถึงเทคโนโลยีได้เสมอภาคโดยไม่ทิ้งผู้ใดกันแน่ไว้ด้านหลัง  บริษัทจะนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาสู่ทุกคน ทุกบ้าน รวมทั้งทุกหน่วยงาน เพื่อสร้างโลกอัจฉริยะที่เชื่อมโยงถึงกันได้อย่างเต็มรูปแบบ”
รางวัลในปีนี้เป็นอีกหนึ่งเครื่องรับรองถึงความเป็นหัวหน้าของหัวเว่ยในอุตสาหกรรมดิจิทัลของไทย แล้วก็ยังเป็นการตอกย้ำซ้ำเติมหน้าที่ของหัวเว่ยสำหรับการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาสู่ทุกคน ทุกบ้าน แล้วก็ทุกหน่วยงาน ต้นสายปลายเหตุสู่การบรรลุผลที่ทำให้บริษัทได้รับรางวัลพิเศษในปีนี้ เช่น
การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล
ศูนย์โอเพ่น แล็บ กรุงเทวดา ศูนย์เกื้อหนุนแบบวัน-สต็อป สำหรับการหาโซลูชันอินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์, บิ๊กดาต้า รวมทั้งคลาวด์คอมพิวติ้ง แพลตฟอร์มการตรวจดู และก็บริการฝึกหัดด้านไอซีครั้งสำหรับลูกค้าแล้วก็ผู้ประกอบกิจการในอุตสาหกรรมไอซีหนในประเทศไทยแล้วก็เอเซียอาคเนย์
การทดลอง 5G ในอีอีซี จัดแจงทดลองเทคโนโลยี 5G (5G Test Bed) ในลักษณะการใช้งานจริง ทีแรกของเอเซียอาคเนย์ ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา (เขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคทิศตะวันออก)
ศูนย์ 5G EIC (Thailand 5G Ecosystem Innovation Center) จัดตั้งขึ้นร่วมกับสำนักสนับสนุนเศรษฐกิจดิจิทัล กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและก็สังคม โดยศูนย์นี้จะปฏิบัติภารกิจเป็น Sandbox สำหรับธุรกิจเอสเอ็มอี สตาร์ทอัพ นักปรับปรุง สถานศึกษา เพื่อปรับปรุงของใหม่ดิจิทัลสำหรับแอปพลิเคชันรวมทั้งบริการ 5G รีบบ่มเพาะพนักงานดิจิทัลคนสมัยใหม่ของประเทศ แล้วก็ยกฐานะความถนัดด้านดิจิทัล
การพัฒนาเพื่อความรุ่งเรืองทางด้านสังคม
โซลูชั่น AI สำหรับโรงหมอเมือง โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI และก็ 5G ที่มอบให้แก่โรงหมอรามาหัวหน้า แล้วก็โรงหมอศิริราช เพื่อช่วยทำให้การวิเคราะห์โรควัววิด-19 เป็นได้อย่างเร็วแล้วก็มีคุณภาพมากขึ้นเรื่อยๆ
โซลูชันวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เพื่อการแพทย์ระยะไกลของหัวเว่ย สำหรับกระทรวงสาธารณสุข ระบบสัมมนาระยะไกลแบบเรียลไทม์ที่ครอบคลุมฟังก์ชันมากมาย ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าหน้าที่ทางด้านการแพทย์ หมอสามารถให้คำแนะนำผ่านออนไลน์ระยะไกลเพื่อปกป้องการรับเชื้อ ผู้เจ็บป่วยก็จะได้รับการวิเคราะห์ รักษา และก็ติดตามผลผ่านเครื่องใช้ไม้สอยสมาร์ทดีไวซ์ของตัวเองได้
รถยนต์อัจฉริยะไม่มีคนขับ ด้วยเทคโนโลยี 5G ปฏิบัติหน้าที่ขนส่งเวชภัณฑ์และก็ครุภัณฑ์ด้านการแพทย์ด้านในโรงหมอ เพื่อลดการเสี่ยงจากการได้รับเชื้อของพนักงานแนวหน้า
การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
หัวเว่ย อาเซียน อะแคเดมี่ ประสานมือเป็นผู้ช่วยเหลือมหาวิทยาลัยด้านธุรกิจ วิศวกรรม รวมทั้งเทคโนโลยี เพื่อสร้างพนักงานทางเทคโนโลยีและก็ดิจิทัลให้ได้ 100,000 คน ข้างใน 5 ปี
หลักสูตร 5G อบรมโดยผู้ที่มีความชำนาญระดับนานาชาติแล้วก็กลุ่มนักวิทยาศาสตร์จากหัวเว่ย เรื่องการอบรม เช่น เทรนด์ 5G แนวทางให้บริการเชิงการค้า  มาตรฐาน 5G  กรณีการใช้แรงงาน โมเดลธุรกิจจาก 5G ฯลฯ เพื่อเกื้อหนุนให้มีการคิดแบบหลากมิติ

สำหรับปีนี้ หัวเว่ยได้รับรางวัลหลังเที่ยงวันอวอร์ดเป็นครั้งลำดับที่สอง โดยเมื่อปี 2561 หัวเว่ยได้รับรางวัลหลังเที่ยงวันอวอร์ด สาขา National Startup จากที่ทำการสิ่งใหม่แห่งชาติ และก็กระทรวงวิทยาศาสตร์รวมทั้งเทคโนโลยี จากการผลักดันธุรกิจสตาร์ทอัพรวมทั้งบริษัทต่างๆเป็นจำนวนมากที่มีสมรรถนะสำหรับในการเติบโต จุดประกายการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรม แล้วก็มีส่วนร่วมสำหรับการสร้างระบบอีวัวสิสเต็มเพื่อสตาร์ทอัพ
หัวเว่ยยังได้ประกาศประสานมือกับดีป้า เพื่อด้วยกันปรับปรุงระบบนิเวศและก็ขยายโครงข่ายอุตสาหกรรม 5G ของเมืองไทยให้เติบโตได้อย่างแกร่ง โดยในปีนี้ ทั้งคู่จะร่วมจัดงาน 5G Summit สร้างผู้สนับสนุนในอุตสาหกรรม 5G (5G Industry Alliance) พร้อมจัดแจงแข่ง 5G Hackathon แล้วก็จัดแจงออกรายงานสมุดปกขาว (5G Whitepaper) เพื่อร่วมระบุวิธีการปรับปรุงอุตสาหกรรม 5G ให้เมืองไทยรวมทั้งทั่วทั้งยังภูมิภาคอีกด้วย
 

Similar Posts