ชายหนุ่มไปรษณีย์หัวร้อน! คว้ามีดข่มขู่รถปิคอัพถึงในปั๊ม ฐานขับขี่รถตัดหน้า
ชายหนุ่มไปรษณีย์หัวร้อน! คว้ามีดข่มขู่รถปิคอัพถึงในปั๊ม ฐานขับขี่รถตัดหน้า
วันที่ 6 เดือนมกราคม นักข่าวกล่าวว่า นายสมชาติ กระมลวงษ์ อายุ 53 ปี ชาว อำเภอวารินทร์ชำราบ จังหวัดจังหวัดอุบลราชธานี นำคลิปภาพชายอายุราวๆ 50-55 ปี คนขับขนส่งของไปรษณีย์ มาร้องเรียนกับสื่อที่จังหวัดบุรีรัมย์ และก็ต้องการจะฝากไปถึงคนภายในภาพ ไม่ให้ทำอย่างงี้อีก
สำหรับคลิปดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น เปิดเผยให้มองเห็นการขัดแย้งกันโดยประมาณ 1 นาที แล้วก็มีจังหวะที่คนขับไปรษณีย์ผลักให้คนถ่ายคลิปเข้าไปในรถยนต์ ก่อนคนถ่ายคลิปจะขออภัยหลายหน แล้วก็ชายหนุ่มไปรษณีย์คนที่ใครๆก็รู้จักกล่าวได้เดินกลับไปยังที่รถยนต์ ชี้ให้เห็นว่าที่มือนั้นมีอาวุธมีดปลายแหลมอยู่ ซึ่งเหตุกำเนิดรอบๆด้านในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ใน อำเภอหนองกี่ จังหวัดจังหวัดบุรีรัมย์
นายสมชาติพูดว่า ตนมีอาชีพค้าขายถังสำหรับใส่น้ำเก่า แล้วก็วัสดุที่ใช้สำหรับก่อสร้าง เมื่อ 4 วันก่อน ได้ขับขี่รถกระบะเดินทางออกจากจังหวัดอุบลฯตั้งแต่เวลา 05.00 น.เพื่อจะไปจังหวัดกรุงเทพ เมื่อขับขี่รถมาถึง อำเภอหนองกี่ เวลาราว 09.00 น.
ถัดมา ตนกำเนิดเจ็บท้องเข้าส้วม ก็เลยเลี้ยวเข้าปั๊มน้ำมันบางจาก เมื่อออกมาจากห้องสุขามา มองเห็นรถยนต์ไปรษณีย์หยุดจบท้ายรถยนต์ของตัวเอง มองเห็นคนขับชี้หน้าด่าทออยู่บนรถยนต์ ประหลาดใจว่าพวกเราไปทำอะไรไม่ถูก ก็เลยเรียกให้มาคุยข้างล่าง
แล้วต่อจากนั้นชายคนมีชื่อเสียงกล่าวได้ลงมาแล้วด่าว่าด้วยคำพูดไม่สุภาพสารพัดสารพัน ว่าขับขี่รถชิง พร้อมเดินเข้าพบเหมือนจะรังควาน ก็เลยถกเถียงไปบ้าง เนื่องจากว่าส่วนใดส่วนหนึ่งไม่ชอบใจเพราะเหตุว่าถูกด่าทอ ทำให้มีอาการชายคนนั้นเข้ามาผลัก จนกระทั่งเห็นมีดปลายแหลมที่คนขับไปรษณีย์ถืออยู่ ก็เลยได้แม้กระนั้นขออภัย
นายสมชาติกล่าวเพราะว่า ขณะนั้นไม่เคยรู้ว่าได้ไปขับขี่รถตัดหน้าเขาไหม แม้กระนั้นเท่าที่ทราบได้ดูกระจกข้างหลังก่อนเลี้ยวมองไม่เห็นมีรถยนต์ ก็เลยเลี้ยวเข้าไป แต่ว่าถ้าว่าไปขัดตัดหน้าเขาจริง ไม่สมควรจะใช้อาวุธมาสนทนา เพราะว่าอันตราย ถ้าข้างตนมีอาวุธสิ่งเดียวกัน
“ต้องการจะขอเตือนผู้ใช้รถยนต์ใช้ถนนหนทาง ให้ลดความใจเร็วลง รถยนต์บนถนนหนทางวิ่งเยอะมากๆ มีบ้างผู้ที่ขับพลาดไปรับประทานเลน หรือตัดหน้าโดยไม่เจตนา น่าจะยกโทษกัน สถานะการณ์คราวนี้ตนมีหลักฐาน สามารถแจ้งเหตุเอาผิดได้ แม้กระนั้นไม่ต้องการทำ เพราะว่าเห็นอกเห็นใจเขา แต่ว่าอยากที่จะให้ธรรมชาติลงอาญามากยิ่งกว่า”